วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประวัติความเป็นมาของวันวาเลนไทน์


วาเลนไทน์ (วันแห่งความรัก) ในสมัยจักรวรรดิโรมัน
มีนักบุญคนหนึ่งชื่อ นักบุญวาเลนไทน์ (Saint Valentine)
ซึ่งเป็นผู้เปี่ยมไปด้วยความรักที่มีีต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริงโดย
ทุกๆ วันเขาได้แอบนำอาหารและของใช้ที่จำเป็นไปวางไว้ที่ประตู
บ้านของคนยากจน โดยที่พวกคนเหล่านั้นไม่รู้ ด้วยความรักแบบ
ชาวคริสต์ที่มีต่อเพื่อนมนุษย์นี้เองทำให้เขาต้องจบชีวิตลงด้วยการ
รับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 เนื่องจากที่
คนในสมัยนั้นยังไม่ี่ยอมรับในศาสนาคริสต์  และใครที่นับถือศาส
นาคริสต์จะมีความผิดร้ายแรงมาก
         ก่อนที่เขาจะูถูกประหาร นักบุญ “วาเลนตินัส” ได้ถูก
จับและูถูกทรมารเพื่อจะบังคับให้เขาเลิกนับถืิอศาสนาคริสต์ตอนที่
เขาอยู่ในคุกนั้นเอง เขาได้พบรักกับหญิงตาบอดคนหนึ่ง หญิง
คนนั้นตาบอดสนิท และเธอคือลูกสาวของผู้คุมขังในนั้น ด้วย
ความรักและคำอธิษฐานของเขาพระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของคน
รักของเขาได้เห็นเป็นปกติ  จากการอัศจรรย์ครั้งนี้เองทำให้ผู้คุม
ขังและคนในครอบครัวได้เชื่อพระเจ้าทุกคน  เรื่องนี้ก็ได้รู้ไปถึง
จักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ของโรม พระองค์ทรงกริ้วมากจึงมีรับสั่้ง
ให้ลงโทษเขาด้วยการประหารชีวิต ___และในคืนก่อนที่จะมีการ
ประหารชีวิตโดยการตัดศีรษะนั้นเอง เขาได้เขียนจดหมายถึงคน
รักของเขาว่า from your valentine "จากวาเลนไทน์ของเธอ"
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 วาเลนตินัสก็ถูกประหารชีวิตแล้ว
ศพของเขาก็นำไปฝังไว้ที่ เฟลมิเนี่ยนเวย์
_______ต่อมาเพื่อเป็นการระลึกถึงชีวิตและความรักที่มีต่อเพื่อน
มนุษย์อย่างแท้จริงของเขาก็ได้มีการสร้างโบสถ์หลังใหญ่คร่ิอมบน
หลุมฝังศพของเขา
       เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่คนทั่วไป ประทับใจในความรักอันยิ่งใหญ่
ของนักบุญคนนี้ ซึ่งต่อมาภายหลัง จึงได้ยึดถือวันที่ 14
กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์ "วันแห่งความรัก" ภาษาอังกฤษคือ
"Saint Valentine’s Day" หรือ "Valentine ‘s Day"